Hyundai Veloster งานแฮชตแบคเทอร์โบบนเรือนร่างของรถสปอร์ตคูเป้ทรงล้ำ ที่เข้ามาสานต่อประวัติศาสตร์ของโมเดล Coupe จาก Hyundai ต่อขยายบทบาทของรถยนต์สมรรถนะสูง บนรูปแบบที่ล้ำอนาคต จากงานดีไซน์ รถ Veloster ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นบรรทัดฐานของรถสปอร์ตที่ขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน เป้าประสงค์ในการดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นลูกค้าที่นิยมความแปลกและแตกต่าง Mike O’Brien รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวางแผนของ Hyunadi ในประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศเกาหลี โครงการพัฒนารถสปอร์ตสามประตู โมเดล Veloster ได้เติมเต็มประสิทธิภาพและเทคโนโลยีชั้นสูงให้กับยานยนต์ยุคใหม่ของ Hyundai เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบนั้น ยังเป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดของค่ายที่ผ่านการทดสอบด้านการบริหารน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ คุณลักษณะของตัวรถที่ใช้ความกล้าหาญในการออกแบบ ที่เน้นความแตกต่างอย่างชัดเจน ทำให้ Veloster Turbo กลายเป็นนวัตกรรมยานยนต์แบบสปอร์ตคูเป้ที่ล้ำสมัย ทั้งในด้านรูปลักษณ์และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและระบบรองรับ
Veloster Turbo ทำการเปิดตัวไปเมื่อช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2012 ในตลาดรถสปอร์ตขนาดกะทัดรัดนั้น มันต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง Volkswagen Scirocco R / Honda Civic Type R / และ Mini Cooper S / Toyota GT86 / Subaru BRZ เมื่อลองเปรียบเทียบอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักแล้วนั้น รถ Veloster Turbo คือรถสปอร์ตที่สามารถทำตัวเลขค่าเฉลี่ยแรงม้าต่อน้ำหนักตัวที่จะต้องแบกรับได้ดีกว่าคู่แข่งทั้งหมด เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร GDI สี่สูบ เป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดที่มีเทคโนโลยีในการให้กำลังในรูปของแรงบิดที่ดีเยี่ยม รถ Veloster Turbo 2013 มีเรี่ยวแรงรวม 186 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที กับแรงบิด 265 นิวตันเมตร ที่ 1,750-4,500 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Veloster Turbo อยู่ในระดับ 27 ไมล์ต่อแกลลอน ดีที่สุดในกลุ่มรถยนต์ที่วางเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ใช้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น GDI อัดอากาศเข้าสู่ท่อร่วมไอดีด้วยเทอร์โบแบบ Turbochargers Twin-Scroll เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูง มีความเหมาะสมทั้งขนาดและน้ำหนักของตัวรถ ซึ่งสามารถทำค่าเฉลี่ยอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักได้ดีที่สุด ในกลุ่มวิศวกรของ Hyundai ได้นำเทคโนโลยีบางส่วนจากเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบที่วางอยู่ในรถรุ่น Sonata 2.0T มาปรับปรุงและย่อขนาด โดยยังคงประสิทธิภาพของแรงบิดเอาไว้อย่างครบถ้วน ด้วยการใช้ระบบอัดอากาศเทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
ทวินเทอร์โบชาร์จเจอร์ใน Veloster ใช้การออกแบบพอร์ตไอเสียสองช่อง แพร่กระจายแรงดันจากไอเสียที่เพิ่มขึ้นในพอร์ตไอเสียช่วยให้การจัดส่งไอดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น พลังงานในรูปไอเสียที่นำไปปั่นกลีบใบของกังหันเทอร์โบชาร์จเจอร์อัดกลับด้วยไอดีในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์ ในช่วงเริ่มต้นของจังหวะการทำงานภายในกระบอกสูบ เมื่อวาล์วไอดีและไอเสียของกระบอกสูบหนึ่งเปิด (ใช้การเปิด-ปิดกลไกวาล์วในช่วงเวลาที่ทับซ้อนกัน) ส่วนอีกสามสูบยังคงปิดอยู่ แล้วเริ่มจังหวะของไอเสียที่มีวาล์วไอเสียเปิดคาอยู่ ถ้าทางเดินไอเสียของกระบอกสูบที่หนึ่งและสามถูกเชื่อมต่อวงจรกับก๊าซไอเสียจากกระบอกสูบที่สามจะเข้าไปเพิ่มแรงกดดันด้านหลังของกระบอกสูบที่หนึ่ง การเหนี่ยวนำของอากาศในท่อร่วมไอดีและเพิ่มปริมาณของก๊าซร้อนภายในกระบอกสูบ ด้วยการติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ Twin-Scroll นำไปสู่การกระจายความดันที่ดีขึ้นในพอร์ตไอเสีย ท่อร่วมจัดส่งไอดีมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการออกแบบเพื่อประจุอัดอากาศที่เกิดขึ้นจากการหมุนของกังหันเทอร์โบชาร์จเจอร์ ส่งผลให้การไหลเข้าของอากาศดียิ่งขึ้น และมีปริมาณที่พอดีกับความต้องการของการจุดระเบิด อากาศที่เข้าไปเผาไหม้ในแต่ละกระบอกสูบมีปริมาณที่ถูกต้องจากการสั่งงานของ ECU ซึ่งเป็นสมองกลไฟฟ้าที่ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ในความเป็นจริงแล้ว แรงดันในระบบอัดอากาศของ Veloster Turbo อยู่ที่ 18 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว มันคือตัวเลขที่มีความเหมาะสมซึ่งผ่านการคำนวณค่าสำหรับเครื่องยนต์สี่สูบ ความจุ 1.6 ลิตร
กังหันของเทอร์โบกับท่อร่วมไอเสียผลิตจากสแตนเลส ชิ้นส่วนบางชิ้นในเครื่องยนต์มีน้ำหนักเบาจากการเลือกใช้วัสดุ ความคงทนของโข่งใบเทอร์โบเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงในขั้นตอนของการหล่อขึ้นรูป ระบบ GDI จัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเน้นไปที่ความประหยัดและลดการปล่อยมลพิษ ชุดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบใหม่ที่ช่วยให้การควบคุมการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงมีความแม่นยำและเพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์ ECU ยังช่วยให้ส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศอยู่ช่วงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น การปรับปรุงประสิทธิภาพเชื้อเพลิงถูกฉีดตรงไปยังห้องเผาไหม้ โดยเพลาลูกเบี้ยวที่ขับเคลื่อนด้วยปั๊มแรงดันสูงที่ทำงานรับแรงกดดันได้มากถึง 2,175 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ซึ่งใช้อัตราส่วนกำลังอัดสูง 9.5:1 ตัวเลขแรงม้าต่อลิตรอยู่ในระดับ 125.6 แรงม้า/ลิตร ซึ่งมีความสมมาตรกับขนาดของมวล ลูกสูบผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ในกระบอกสูบ
การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ Veloster Turbo ได้แรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตที่มีประสิทธิภาพสูงผสมผสานกับเรือนร่างที่คล้ายแมลงปีกแข็งเมื่ออยู่ในสี Petrol Grey สีเทาดำด้านที่กำลังฮอตฮิตในวงการรถแรง มันคืองานสีที่เจ๋งที่สุดตั้งแต่เคยมีมาในรถอย่าง Lamborghini Reventon หนึ่งในงานออกแบบของ Veloster ที่โดดเด่นมากที่สุดคือ การปรับเปลี่ยนท่อระบายไอเสีย นักออกแบบของ Hyundai ใช้ขนาดที่ใหญ่ขึ้นของท่อระบายไอเสียแบบทรงกลมสองท่อและท่อร่วมไอดีแบบใหม่ วิศวกรในแผนกปรับแต่งรับหน้าที่จูนอัพเสียงของเครื่องยนต์ที่ผ่านทั้งท่อไอดีและไอเสียเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรอัดเทอร์โบ จึงสามารถส่งเสียงที่ให้ความรู้สึกถึงพลังได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งกลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า
จากขนาดที่ใหญ่โตของกระจังหน้า มันคืองานดีไซน์ที่ต้องใช้ความกล้าในการเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ด้านหน้าให้โดนใจวัยโจ๋ รถ Veloster มีกระจังหน้าขนาดใหญ่ยักษ์ทรงหกเหลี่ยมเหมือนกับ AUDI ยังกะแกะ เชื่อมโยงกับเหลี่ยมมุมของฝากระโปรงหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน กันชนท้ายใหม่แบบไดนามิกที่มีช่องระบายอากาศ diffuser มันคือรถที่ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องความสนใจด้วยหลังคาที่แบนราบแทนที่จะโค้งมน ทรงประหลาดของบานประตูที่กำลังกลายเป็นเอกลักษณ์ซึ่งยากที่จะลอกเลียน สัดส่วนบั้นท้ายที่แสดงออกมาได้คล้ายกับกล้ามเนื้อของนักกีฬาโอลิมปิก ดูดุดันสมน้ำสมเนื้อกับชื่อเสียง การออกแบบ Veloster โดยเฉพาะรุ่น Turbo เพิ่มความมั่นคงด้วยการทดสอบในอุโมงค์ลมของ Hyundai เพื่อให้ได้ตัวเลขค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งจะส่งผลไปถึงการควบคุม (ค่า cd 0.32) รถ Veloster Turbo มีล้ออัลลอยสีเงินปัดเงาขอบ 18 นิ้ว สีเงินโครเมี่ยมเงาแวววาวกับยาง Hankook รุ่น Ventus Prime 2 ไซส์ 215/40R18 85V ทั้งสี่ล้อ มันคือยางสปอร์ตแก้มเตี้ยสมรรถนะสูงจากแดนกิมจิที่กำลังทำตลาดได้ดีในยุโรปและอเมริกา เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อดึงประสิทธิภาพการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบสูงสุด
เส้นสายของตัวรถที่วิ่งเข้าไปตัดกันยังส่วนหน้าเพิ่มเหลี่ยมมุมที่แปลกตา มันเป็นรถทรงประหลาดล้ำไม่เหมือนใครและดึงดูดสายตาของผู้คนรอบข้าง ด้วยผิวพื้นสีเทาที่สวยงามยามแสงตกกระทบ รถ Veloster Turbo ตกแต่งด้าหน้าด้วยสปอยเลอร์ทรงสปอร์ต แนวเส้นทะแยงของชายล่างไฟหน้าตัดกับเหลี่ยมมุมแหลมคมของกรอบไฟตัดหมอก มันค่อนข้างขัดแย้งแต่ก็มีความกลมกลืนเมื่อใช้การสังเกตอย่างตั้งใจ ไฟหน้า LED ทรงกระบอกโปรเจกเตอร์ มีไฟหรี่ LED Daytime Runing ติดมาให้เพราะขายทั้งในยุโรปและอเมริกา ด้านข้างตัวถังไล่จากเสาหน้า แนวหลังคาที่แบนลาดลงไปยังส่วนท้าย มันคล้าย Nissan GTR ย่อส่วนเมื่อมองจากด้านข้าง โป่งล้อที่อวบบวมออกมานอกตัวถังด้านข้างอย่างจงใจ แนวเสาหลังที่หนาทึบกับบานประตูสองบานในฝั่งคนนั่งด้านซ้าย มือจับบานประตูหลังที่ีซ่อนอยู่มุมด้านบนของบานประตูหลัง ยังทำให้นึกถึงรถสปอร์ตซีดานของอิตาลี Alfa Romeo รุ่น 156 ที่ออกแบบมือจับที่เปิดประตูบานหลังได้สุดแนว กระจกบานหลังเล็กและโค้งไปตามสัดส่วนที่ไหลลื่นของฝาท้าย ใต้โลโก้ Hyundai ที่ฝาท้ายออกแบบเป็นมือจับสำหรับเปิดฝาท้าย รถ Veloster Turbo มียางอะไหล่ไซส์เล็กติดมาให้จากโรงงานพร้อมเครื่องมือและแม่แรง เนื่องจากไม่ได้ใช้ยางแบบ Run Flat พื้นที่ใต้ห้องเก็บสัมภาระส่วนท้ายจึงกลายเป็นที่อยู่ของยางอะไหล่ไปโดยปริยาย
Velosters ทุกรุ่นติดตั้งระบบกันสะเทือนด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัทคอยล์สปริง, โช้กอัพแก๊สและเหล็กกันโคลง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 24 มิลลิเมตร ที่ด้านหน้า ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีมรูปตัว V พร้อมเหล็กยึดตามขวางกันโคลงขนาด 23 มิลลิเมตร เพื่อให้การสาดโค้งมีความเสถียรและมั่นคง เหล็กกันโคลงที่มีขนาดโตขึ้นเพื่อความแข็งแกร่งที่มากขึ้นและส่งถ่ายการควบคุมที่หนึบแน่น นอกจากนี้ ยังใช้โช้กอัพ monotube เพื่อเพิ่มความนิ่มนวลอีกด้วย
Velosters ใช้พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีคุณลักษณะที่ปรับแปรผันน้ำหนักไปตามความเร็วด้วยเซ็นเซอร์ ตรวจจับที่จะคอยปรับน้ำหนักของพวงมาลัยให้ประสานไปกับความเร็วขณะขับขี่ รัศมีวงเลี้ยวของ Veloster ที่ 34.1 ฟุต ดีกว่า Mini Cooper S ที่ีทำได้ 35.1 ฟุต และ Mini Clubman ที่ 36.1 ฟุต
ภายใน Cockpit ของ Veloster รุ่นสูงสุด ใช้เบาะหนังสปอร์ตเต็มรูปแบบกับคำว่า Turbo เย็บด้วยด้ายสีขาว เบาหนังสีเทาหุ้มขอบด้วยหนังโทนสีอ่อน ที่โดดเด่นมากคืน คอนโซล ทรงเหลี่ยมซึ่งใช้การออกแบบที่แปลกตาและเต็มไปด้วยมุมทะแยงตัดกันไปมา คอนโซลทจากพลาสติกฉีดขึ้นรูปสีเทาดำ ช่วยลดแสงสะท้อนได้ดี สำหรับมาตรวัดใช้จอทรงกระบอก มีหน้าจอ TFT ตั้งอยู่ระหว่างมาตรวัดความเร็วและมาตรวัดรอบ สีของไฟมาตรวัดและสวิตช์ รวมถึงปุ่มสั่งงานต่างๆ ใช้สีน้ำเงินเข้มที่สวยงาม มาตรวัดเรืองแสงอ่านค่าได้ง่าย แม้ภายในของ Veloster จะเต็มไปด้วยพลาสติก แต่ทำออกมาได้ดีจากรูปแบบที่ล้ำสมัย สร้างความรู้สึกคล้ายกำลังขับรถต้นแบบ เบาะที่นั่งด้านหน้ายังมีระบบอุ่นเบาะติดตั้งมาให้สำหรับรุ่นเทอร์โบเนื่องจากเป็นรถนำเข้า
จอของระบบมัลติมีเดียเป็นจอความคมชัดสูง ที่สั่งงานด้วยการใช้ระบบสัมผัสที่หน้าจอ ขนาดความกว้าง 6 นิ้ว รับหน้าที่ในการสั่งงานระบบเครื่องเสียง CD / DVD / วิทยุ AM / FM ซึ่งใช้ปุ่มหมุนหาคลื่นแบบอะนาล็อก แต่แสดงผลบนหน้าจอแบบดิจิตอล ช่องใส่ CD อยู่ด้านบนสุดของคอนโซลกลาง เมื่อโหลดแผ่น CD เข้าไปจะมีสัญญาณไฟสีฟ้าในตำแหน่ง CD-in ระบบเครื่องเสียงของ Veloster วางลำโพงคุณภาพปานกลาง 8 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร ให้เสียงที่คมชัดสมจริง แม้จะเร่งได้ไม่ดังสะใจ แต่ก็มีคุณภาพของเสียงที่ถูกขับออกมาอยู่ในระดับที่ดี Veloster Turbo ใช้เครื่องเสียงเกรดพรีเมี่ยมขนาดมาตรฐานพลัง 450 วัตต์ ระบบเสียงแปดทิศทางที่มีลำโพง รวมทั้งซับวูฟเฟอร์แปดนิ้ว เสริมช่องต่อรับสัญญาณอินเตอร์เฟซ AUX-USB ระบบปรับอากาศหรือชุดควบคุมอุณหภูมิอยู่ใต้จอมัลติมีเดีย แม้จะไม่ใช้ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วนดิจิตอล แต่ปุ่มกดสั่งงานของชุดแอร์สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ปุ่มหมุนเร่งหรือลดน้ำยาคอมเพรสเซอร์ มีสวิตช์ปิด-เปิดอยู่ตรงกลาง ช่องแอร์ทรงสี่เหลี่ยมเข้ากับชิ้นงานของคอนโซล มันยังดูคล้ายกับคอนโซลของ Ford Focus จากช่องแอร์และอุปกรณ์พวกสวิตช์และปุ่มกดกับเครื่องเสียงที่เหมือนกันยังกับแกะ สวิตช์สตาร์ทเครื่องยนต์วางตำแหน่งอยู่ต่ำสุดใต้แผงควบคุมระบบปรับอากาศ ทำจากพลาสติกสีดำและมีหน้าตาที่ดูธรรมดาไปนิด ส่วนช่องเชื่อมต่อ AUX-iPOD อยู่ใต้คอนโซล แทนที่จะอยู่ในช่องของพนักเท้าแขน ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกในการเสียบเข้าหรือดึงออกสำหรับคนชอบฟังเพลง ช่องเสียบที่จุดบุหรี่มีมาให้ถึงสองช่องเพื่อเสียบพ่วงชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกโทรศัพท์
วงพวงมาลัยสามก้านแบบสปอร์ตของ Veloster Turbo มีขนาดเล็กแบบรถแข่ง หนังที่ใช้หุ้มช่วยให้จับได้อย่างกระชับและเลี้ยวได้อย่างเฉียบคม จากขนาดของวงพวงมาลัย ภายในยังใส่ปุ่มและสวิตช์ที่ใช้ควบคุมชุดเครื่องเสียง ปุ่มควบคุมระบบล็อกความเร็ว Cruise Control สวิตช์ปรับตั้ง Trip Meter ปุ่มรับและวางสายโทรศัพท์ของระบบบูลทูธ ที่เจ๋งมากคือแป้นเปลี่ยนตำแหน่งของอัตราทดหลังพวงมาลัย แม้จะทำด้วยพลาสติกและมีขนาดที่เล็กไป แต่ใช้งานได้จริงและอยู่ในตำแหน่งที่พอดิบพอดีกับนิ้วมือ ทำให้การกดเปลี่ยนเกียร์มีจังหวะที่แม่นยำ รวดเร็วมาก
Veloster Turbo มีระบบส่งกำลังแบบออโต้ทริปทรอนิกส์ 6 สปีด เกียร์อัตโนมัติ 6 อัตราทดแบบ Shif-tronic ควบคุมการส่งกำลังตั้งแต่จังหวะออกตัวไปจนถึงความเร็วสูงสุด เกียร์ลูกนี้ยังมีการทำงานในโหมด EcoShift DCT ซึ่งเอาต์พุทในรูปของแรงบิดจะถูกจำกัดโดย ECU ของสมองกลที่ควบคุมทั้งเครื่องและเกียร์จะสั่งงานให้คันเร่งไฟฟ้ายืดหยุ่นมากขึ้น รอบต่ำโดยการปรับเกียร์ขึ้นสู่เกียร์สูงอย่างรวดเร็วเพื่อความประหยัด และหลีกเลี่ยงการใช้รอบสูงๆ นานเกินไป ระบบ Shif-tronic ออกแบบมาสำหรับ Veloster ซึ่งใช้เครื่องยนต์แค่ 1.6 ลิตร ในการทำให้เปลี่ยนอัตราทดได้ว่องไวมากยิ่งขึ้น อัตราทดของเกียร์ครอบคลุมมากกว่าเกียร์อัตโนมัติแบบปกติเล็กน้อย ในบางช่วงจังหวะมันแคบกว่าและกระชั้นชิดมากกว่าเพื่อสมรรถนะในการเร่งความเร็ว อัตราทดที่สั้นในช่วงเกียร์ 3-4 ลงยังช่วยรักษารอบเครื่องยนต์ให้สามารถคาและส่งถ่ายแรงบิดในรอบกลางๆ ได้อย่างต่อเนื่อง EcoShift DCT ที่เสริมเข้ามาสั่งงาน ด้วยการกดสวิตช์ข้างๆ แกนพวงมาลัยใต้กรอบมาตรวัด จะปรับเครื่องยนต์และชุดส่งกำลังให้มีความสมดุลเพื่อประสิทธิภาพด้านอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เกียร์ที่ชิฟขึ้นสู่เกียร์ 6 อย่างรวดเร็วยังช่วยลดรอบเครื่องยนต์ได้ดีอีกด้วย.
HYUNDAI VELOSTER TURBO Petrol Grey 1,739,000 บาท
สปอร์ตแฮตช์แบค ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย ประตูอัจฉริยะที่มาพร้อมกับมือจับประตูแบบ Integrated ซ่อนตำแหน่งของมือจับอย่างกลมกลืนที่กรอบกระจกด้านบนเพื่อคงรูปลักษณ์ของรถสปอร์ต 2 ประตู
-กำลังสูงสุด 186 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 265 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 - 4,500 รอบต่อนาที (มาตรฐานไอเสีย ยูโร 5)
-ระบบเทอร์โบอัดอากาศแบบ Twin-Scroll Turbocharger (ประสิทธิภาพดีขึ้น 7 - 8% และประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นกว่าธรรมดาถึง 5% )
-กระจังหน้าดีไซน์พิเศษขนาดใหญ่ 6 เหลี่ยม พร้อมกันชนหน้าดุดัน ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบใหม่ กันชนหลัง ปลายท่อไอเสียคู่ใหม่ และดิสก์เบรกขนาดใหญ่ด้านหน้า
-ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.32
-เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift
-ความเร็วสูงสุด 214 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.1 วินาที (ข้อมูลจากโรงงานผู้ผลิต)
-ระบบช่วงล่างหน้า -หลัง แบบแมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA
-หลังคาแก้ว Panoramic Sunroof
-ระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
-มาตรวัดเรืองแสง Super Vision
-เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบดันหลัง Lumbar Support
-ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start
-พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
-ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP ระบบเสริมสมรรถนะการควบคุมพวงมาลัย VSM และระบบแทรคชั่นคอนโทรล TCS
-ระบบเบรก ABS ระบบเพิ่มแรงเบรกในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรก EBD
-ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
-ดิสก์เบรก 4 ล้อ
-พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง และระบบควบคุมโทรศัพท์และเครื่องเสียง
-Paddle Shift สามารถเปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย
-ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/40 R 18
-เบาะหลังพับได้แบบ 60:40
-สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
-จอ LCD แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
-แป้นคันเร่งแบบสปอร์ต
-ถุงลมนิรภัยคู่หน้า + ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
-ไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างนำทางเมื่อดับเครื่อง (escort lamp)
-ระบบ Bluetooth
-กุญแจ Immobilizer
-ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor
-ระบบไล่ฝ้าที่กระจกมองข้าง
-ระบบปรับความร้อนที่เบาะหน้า
-โครงสร้างนิรภัยแบบ High - Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆ ทั่วตัวรถ
Hyundai Veloster และ Veloster Sport Turbo มีให้เลือก 7 สี ที่มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเฉพาะตัว อันได้แก่ สีส้ม Vitamin C สีเหลือง Sunflower สีเขียว Green Apple สีเงิน Sonic Silver สีแดง Veloster Red สีน้ำเงิน Ocean Blue สีขาว White Crystal และสีพิเศษ “เทาด้าน” หรือ Petrol Grey ซึ่งมีให้เลือกเฉพาะในรุ่น Turbo* เท่านั้น
Hyundai Voloster Turbo Specifications Engine
Engine Type...................................................Turbocharger / Twin-Scroll Turbo
Cylinders Straight ......................................4
Capacity.......................................................1.6 litre 1,591 cc (97.089 cu in)
Bore Stroke................................................77.0 mm 85.4 mm 3.03 3.36 in
Bore/stroke ratio...........................................0.9
Valve gear..................................................... DOHC 4 valves per cylinder 16 Total valves
maximum power output.............................186.8 bhp (149.9 kW) at 6,000 rpm
Specific output..............................................126.3 bhp/litre 2.07 bhp/cu in
maximum torque.........................................265 Nm (195 ftlb) (27 kgm) at 1,750-4,500 rpm
Specific torque..............................................166.56 Nm/litre 2.01 ftlb/cu3
sump..............................................................wet sumped
compression ratio.........................................9.5:1
Fuel system...................................................direct petrol injection
bmep (brake mean effective pressure)..........2093.1 kPa (303.6 psi)
Acceleration 0-100km/h................................8.0 S
Top-speed.......................................................214 km/h
Power-to-weight ratio...................................158.27 bhp/ton
Engine position.............................................front
Engine layout................................................transverse
Drive wheels.................................................front wheel drive
Torque split...................................................N/A
Steering.........................................................rack & pinion PAS
turns lock-to-lock..........................................2.780
Turning circle................................................N/A
Front suspension...........................................Macpherson struts
Rear suspension............................................Torsion beam
Wheel size front...........................................71/2J x 18
Wheel size rear.............................................71/2J x 18
Tyres front....................................................215/40 VR 18 Hankook Ventus Prime 2
Tyres rear......................................................215/40 VR 18 Hankook Ventus Prime 2
Brakes ..........................................................F/R VeDi/Di-S-ABS
Front brake diameter.....................................300 mm
Rear brake diameter......................................262 mm
Gearbox.........................................................6 speed Shif-tronic Auto With EcoShift DCT
Wheelbase....................................................2,649 mm 104.3 in
Track/tread (front).........................................1,557 mm 61.3 in
Track/tread (rear)...........................................1,570 mm 61.8 in
Length...........................................................4,249 mm 167.3 in
Width............................................................1,806 mm 71.1 in
Height............................................................1,410 mm 55.5 in
Ground clearance...........................................N/A
length:wheelbase ratio...................................1.6
Kerb weight...................................................1,270 kg 2,800 lb
Fuel tank capacity..........................................50 litres 11 UK Gal 13.2 US Gal
ขอบคุณเว็บไซน์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.thairath.co.th