Porsche แจงยอดขายสวนทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป กำไรมหาศาลจากการขายรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดด้วยการแตกไลน์รถหลากหลายรุ่นเพื่อ เป็นทางเลือกของลูกค้า รวมถึงประสิทธิภาพของตัวรถส่งผลให้ตัวเลขยอดขายสูงโด่งสวนทางกับสภาพการณ์ ของเศรษฐกิจในยุโรปที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก...

ปี 2012 ถือได้ว่าเป็นปีที่ Porsche ประสบความสำเร็จที่สุดในเรื่องของยอดขายและผลกำไรในการดำเนินงาน โดย Porsche มียอดขายรถรวมสูงถึง 143,096 คัน ซึ่งถือได้ว่าสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 22% ยอดผลกำไรที่ได้จากการทำธุรกิจสูงขึ้น 27% อยู่ที่ 13.9 พันล้านยูโร ผลจากการดำเนินงานสูงขึ้น 19% คิดเป็น 2.44 พันล้านยูโร จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 17,502 อัตรา อีกทั้งบริษัทยังเพิ่มจำนวนพนักงานฝึกหัดให้เพิ่มขึ้นจากเดิม 100 อัตราเป็น 125 อัตราเพื่อเข้าร่วมฝึกอบรมกับ Porsche

 

Matthias Müller ประธานบริหารและสมาชิกบอร์ดบริหารของ Porsche AG ในเยอรมนี ได้กล่าวไว้ในการแถลงข่าวประจำปีที่ สตุดการ์ดว่า “โรงงานผลิตรถสปอร์ตต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะ อย่างยิ่งในยุโรป แต่ Porsche สามารถผ่านแรงกดดันนี้มาได้ และยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2012 เป็นปีที่ Porsche ประสบความสำเร็จที่สุดและต้องบันทึกไว้เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของ บริษัท สำหรับความสำเร็จของ Porsche นี้ได้มาจากหลายๆ ตลาดทั่วโลก รวมไปถึงการ เปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมานั้น Porsche ได้นำเสนอรถสปอร์ตที่น่าหลงใหลออกมาหลากหลายรุ่นด้วยเช่นกัน”

Lutz Meschke ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงินได้กล่าวสมทบว่า “การลงทุนที่มั่นคงและผลกำไรที่งดงามคือสิ่งสำคัญของบริษัท” Porsche สามารถสร้างผลตอบแทนจากยอดขายได้สูงถึง 18% “ด้วยจุดยืนที่มั่นคงและการจัดการการลงทุนอย่างระมัดระวัง ทำให้เราสามารถมั่นใจได้อีกว่าในปี 2013 จะกลายมาเป็นอีกปีที่ประสบความสำเร็จได้ และเราหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าปีที่ผ่านมาอีกด้วย”

สภาพ คล่องสุทธิหมายถึงการมีหนี้สินโดยรวมในระดับที่น้อยซึ่งไม่รวมถึงการให้ บริการทางการเงินเป็นไปในทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน นั่นคือจาก -2.58 พันล้านยูโร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2011 เป็น -1.87 พันล้านยูโร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2012 ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Porsche ได้ขยับเข้ามาใกล้กับเป้าหมายระยะกลางที่จะทำการลดระดับหนี้สินในขณะที่การ เติบโตทางธุรกิจมากขึ้นจากเงินหมุนเวียนที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ปี 2012 ที่ผ่านมา อัตราการเติบโตที่สูงที่สุดคือรุ่น 911 ซึ่งได้เปิดตัวเจเนอเรชั่นใหม่ออกมาให้กลายมาเป็นไอคอนของรถสปอร์ตและได้รับ การตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามด้วยยอดขายที่สูงขึ้นถึง 49% เป็น 26,203 คัน ส่วน Cayenne นั้นยังร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง และมียอดขายที่สูงที่สุดที่ 77,822 คัน (เพิ่มมากขึ้น 30%) รุ่นเครื่องยนต์วางกลางก็สามารถทำตลาดได้ดีเช่นกันโดยเติบโตขึ้น 4% เป็น 11,740 คัน โดย 10,126 คันมาจากรุ่น Boxster ที่ได้รับการเปิดตัวไปในเดือนมีนาคม 2012 ซึ่งถือได้ว่าเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 66% ที่เหลือเป็นยอดของ Cayman เจเนอเรชั่นเดิมอยู่ที่ 1,614 คัน Cayman เจเนอเรชั่นใหม่ได้ถูกส่งออกมาสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2013 ที่ผ่านมา ส่วนอีกหนึ่งรุ่นคือ Panamera มียอดขายที่ 27,331 คัน

ตลาด ต่างๆ ในหลายภูมิภาคต่างเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ตลาดในอเมริกาเหนือมียอดขายที่สูงขึ้นถึง 34% คิดเป็น 39,192 คัน ส่วนประเทศจีน (รวมฮ่องกง) เติบโตขึ้นรองลงมาโดยมียอดขายที่ 33,590 คันคิดเป็น 32% ตลาดในเยอรมนียังเติบโตขึ้นถึง 16% โดยมียอดขายที่ 16,090 คัน ตลาดรวมในยุโรป (ไม่รวมเยอรมนี) เติบโตขึ้น 8% คิดเป็น 31,094 คัน ส่วนตลาดอื่นๆ ทั่วโลกมียอดขายที่เพิ่มขึ้น 19% ซึ่งอยู่ที่ 23,130 คัน

ยอด การผลิตในปี 2012 เพิ่มขึ้นเป็น 19% โดยมียอดผลิตที่ 151,999 คัน โดยเป็นยอดผลิตของ 911 ที่ 28,419 คัน (เพิ่มขึ้น 31%) ยอดผลิตของ Cayenne เพิ่มขึ้นเป็น 83,208 คัน (เพิ่มขึ้น 34%) และ Panamera มียอดผลิตที่ 27,056 คัน (ลดลง 15%) Boxster มียอดผลิตที่ 13,316 คัน (เพิ่มขึ้น 9%)

บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Porsche อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกร ที่มากประสบการณ์ ได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงาน Porsche ประเทศเยอรมนีโดยตรง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ Porsche ได้ที่แผนกขาย หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th