ลองก่อนใคร...ซามูไรในหิมะ ALL NEW HONDA ACCORD 2014
ทดสอบสั้นที่ญี่ปุ่นก่อนการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในวันจันทร์ ที่ 11 มีนาคมนี้ นี่คือ New Honda Accord 2014 ยนตรกรรมซีดานสำหรับผู้บริหารเจเนอเรชั่นล่าสุด พร้อมแล้วสำหรับตลาดรถซีดานขนาดกลางในประเทศไทย...
14.30 น. เครื่องบิน Airbus A380 ของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 676 ร่อนลงจอดยังสนามบินนาริตะอย่างนุ่มนวล นี่คือการเดินทางมาประเทศญี่ปุ่นของผมและสื่อมวลชนสายยานยนต์ ตามคำเชิญของบริษัท Honda Automobile Thailand co,ltd. เพื่อลงทดสอบยนตรกรรมซีดานขนาดกลาง หรูหรา รุ่นล่าสุด All New Honda Accord 2014 เรือธงของค่าย Honda นับเป็นรถยนต์โมเดล Accord ในเจเนอเรชั่นที่ 9 ซึ่งเข้ามาสานต่อความสำเร็จตลอดระยะเวลากว่า 37 ปี บนโลกแห่งยานยนต์ รถ Honda Accord นับเป็นจักรกลเดินทางขนาดกลาง ที่เน้นประสิทธิภาพการขับขี่กับความหรูหราของห้องโดยสาร บนรูปแบบและการจัดวางอุปกรณ์รวมถึงการคัดสรรวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน จากรุ่นแรกสุดมาจนถึงรุ่นใหม่ล่าสุด รถยนต์เจ้าของสัญลักษณ์รูปตัว H คันนี้ได้รับความไว้วางใจ และความนิยมจากผู้คนมานานถึงเกือบ 40 ปี จนทำให้ยอดขายของรถยนต์ Accord ทั่วโลกสูงยันเพดาน
หลังจากผ่านด่าน ตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินนาริตะ ผมและเพื่อนๆ สื่อมวลชนก็ออกเดินทางโดยรถโค้ช จากสนามบินมุ่งสู่ทิศเหนือของโตเกียว เพื่อเข้าพักที่โรงแรม Twin Ring Motegi ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีสนามทดสอบ ศูนย์พัฒนา และทดสอบรถยนต์ หรือ R And D รวมทั้งสนามแข่งรถและพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของค่าย Honda ที่ผ่านการดำเนินงานโดยบริษัท Honda Motor Japan เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งของโลกยนตรกรรม สำหรับการแข่งขันรถยนต์ การฝึกฝนทักษะของการขับขี่แบบปลอดภัย หรือเรียนรู้การขับและควบคุมรถแข่ง ผ่านทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของ Honda ซึ่งคอยอบรมให้คำแนะนำที่ถูกต้องสำหรับการขับขี่ทั้งแบบปกติและการแข่งขัน สนาม Twin Ring Motegi แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอิบารากิ เป็นที่ตั้งของเทือกเขายามิโซะ เทือกเขาทากะ และเทือกเขาคุจิ ซึ่งทอดยาวจากเหนือมาใต้ เทือกเขาคุจิ และเทือกเขาทากะ ตั้งอยู่บริเวณปลายด้านใต้ของเขตภูเขาอบุคุมะ แม่น้ำยามาดะ แม่น้ำ ซาโตะ แม่น้ำคุจิ และแม่น้ำนากะ ไหลผ่านบริเวณพื้นที่ราบลุ่มที่เป็นแอ่ง เทือกเขายามิโซะ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด (1,022 เมตร) กั้นพรมแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือและทอดยาวไปทางใต้กั้นพรมแดนระหว่างจังหวัด อิบารากิกับจังหวัดโตชิกิ
Twin Ring Motegi วางแผนผังพื้นที่ของสนามเป็นรูปวงรี นับได้ว่าเป็นสนามแข่งรถแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะถูกนำมาใช้เพียงปีละครั้ง สำหรับการแข่งขันรายการใหญ่ สนามแข่งรูปไข่ มีความยาว 1.549 กิโลเมตร เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1998 สนาม Twin Ring Motegi ถูกสร้างขึ้นโดย Honda Motor ภายในพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งมีทั้งที่ราบลุ่มและภูเขาสูงชัน มีสนามแข่งรถถึงสองสนาม สนามแรกออกแบบคล้ายกับสนามแข่งรถในสหรัฐอเมริกา และได้มาตรฐานสำหรับจัดการแข่งขันรถยนต์แบบ Indy Car / Moto GP / Super GT / Formula Nippon / MFJ Super bike / IZOD Indy Car Series สำหรับส่วนของ Road Course นั้น มีความยาวของสนาม 4.8 กิโลเมตร ผังสนามส่วนใหญ่ของ Road Course เป็นการวิ่งตามเข็มนาฬิกามากกว่าทวนเข็มนาฬิกา สนามแห่งนี้ยังเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์กรังด์ปรีซ์ในช่วง 2000-2003 และรถจักรยานยนต์แกรนด์กรังด์ปรีซ์ของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา
นอกจากรูปแบบของสนามแข่งขันแล้ว การพบกันของคน รถและธรรมชาติในการร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ นับเป็นประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำ Twin Ring Motegi ยังมีสนามทดลองขับของเด็กเล็ก เพื่อฝึกฝนการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัย โดยเน้นไปที่การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ให้ความสำคัญต่อการใช้รถใช้ถนนของคนญี่ปุ่น เพื่อที่จะลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เหลือน้อยที่สุด
จาก สนามบินนาริตะ ที่มีอุณหภูมิในช่วงเย็นประมาณ 5 องศา รถโค้ชใช้เวลาวิ่ง 2 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงเมือง Hiyama ในตอนพลบค่ำ อุณหภูมิในแถบจังหวัดอิบารากิ ติดภูเขาที่อยู่เหนือโตเกียวขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อีก 100 กิโลเมตร หล่นลงไปอยู่ที่ -1 องศา บริเวณร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่างที่ทางคณะสื่อมวลชนไทยและทีมพีอาร์ของ Honda แวะพักทานอาหารค่ำ น้ำในอ่างหน้าร้านจับตัวแข็งเป็นน้ำแข็งสีขาวขุ่น ลมจากหุบเขาของเมือง Hiyama พัดอย่างรุนแรง และมีความเย็นจัดจนแทบจะยืนไม่ได้เพราะความหนาว คณะสื่อมวลชนไทยรับประทานอาหารค่ำเสร็จก็ออกเดินทางต่ออีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จนมาถึงยังโรงแรม Twin Ring Motegi เอาเกือบๆ สี่ทุ่ม หลังจากรับกุญแจต่างก็แยกย้ายเข้าห้องพักทันที เนื่องจากวันพรุ่งนี้จะเป็นการขับทดสอบ Honda New Accord 2014 แต่เช้า การเดินทางที่เริ่มต้นตั้งแต่หกโมงเช้าที่สุวรรณภูมิจนมาถึงที่พัก ซึ่งปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม ทำให้รู้สึกล้า อากาศหนาวกับลมที่ทำให้เย็นจัด จนแทบจะแข็ง เหมาะกับการอยู่ในห้องอุ่นๆ มากกว่าจะออกไปเดินเล่น
08.30 น. เช้าวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 หลังจากรับประทานอาหารเช้าและร่วมฟังบรรยายสรุปรายละเอียดของตัวรถแล้ว ทีมงานชาวญี่ปุ่นของ Honda Motor ซึ่งมีทั้งนักขับทดสอบและวิศวกรผู้ร่วมพัฒนารถ Accord 2014 ก็นำสื่อมวลชนไทยไปยังสนามทดสอบ โดยมีรถ Honda Accord 2012 รุ่น 2.4 NAVI จอดรออยู่ที่สนามทดสอบ ท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใสและอุณหภูมิประมาณ 5 องศาเซลเซียส ผมลงจากรถโค้ชเดินเข้าไปดูทรวดทรงรูปลักษณ์ของ New Accord ใกล้ๆ เพื่อเก็บรายละเอียด สำหรับการขับทดสอบในครั้งนี้ ทาง Honda ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากรถยังไม่ได้มีการเปิดตัวที่ประเทศไทย รถ Accord คันดังกล่าวเพิ่งจะประกอบเสร็จในโรงงานโรจนะ ที่พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นจึงถูกส่งมาทางเครื่องบินเพื่อให้ทันกับการทดสอบของสื่อมวลชน ในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากกำแพงมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่สูงมาก รถ Honda Accord ที่จะขายในประเทศญี่ปุ่น จึงมีแต่รุ่นเครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hybrid สำหรับประเทศไทยที่เป็นฐานการประกอบหลักของ New Accord นั้น ยังคงมีเครื่องยนต์ให้เลือกสองรุ่นเหมือนเดิมคือ 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร เป็นเครื่องเบนซินยนต์แถวเรียง 4 สูบ พร้อมหัวฉีด PGM-F1 และระบบวาล์วแปรผัน iVTEC กับเกียร์ CVT S-Range Control
เทคโนโลยี ใหม่ของวงการยนตรกรรมคือ การลดขนาดตัวถัง ลดทอนน้ำหนัก และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้าง New Accord ใช้ตัวถังแบบโมโนค็อก ผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษจากการคิดค้นของวิศวกร Honda มีชื่อเรียกว่า Advanced Compatibility Engineering หรือ ACE ด้วยการเสริมความแข็งแรงในจุดต่างๆ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนของเหล็กที่มีความแข็งแกร่งสูง เป็นโลหะแบบ High Tensile-steel มากถึง 55% ผลที่ได้คือความคงทนต่อการบิดตัว รวมถึงสามารถรับแรงเค้นได้เพิ่มมากขึ้นอีก 34%-42% โครงสร้างแบบ ACE ถูกพัฒนาขึ้น โดยนำมาใช้ในรถ MPV รุ่นล่าสุดโมเดล Odyssey หลังจากนั้นทาง Honda จึงเริ่มนำมาใช้กับรถยนต์ในโมเดลอื่นๆ ของค่าย โครงสร้างดังกล่าวไม่ได้เน้นเพียงแค่ความแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับการขับขี่ในด้านความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการดูดซับแรงกระแทกและกระจายแรงไปตามโครงสร้างของท่อนหน้าและหลัง ทำให้ห้องโดยสารมีความเสียหายให้น้อยที่สุด จากการทดสอบการชนในขั้นตอนของการพัฒนา
New Accord 2014 ใช้เทคโนโลยี Noise Vabration หรือ NVH เป็นการยกระดับให้ห้องโดยสาร มีความเงียบมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา กระแสลมที่ปะทะเข้ากับตัวถังในระหว่างการวิ่งด้วยความเร็วสูงจะถูกดูดซับ เสียงด้วยวัสดุป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอกที่มีเพิ่มเข้ามาแทบทุกจุด แม้แต่กระจกบังลมทุกบานก็ยังถูกเพิ่มความหนาเพื่อปิดกั้นเสียงรบกวนจากภาย นอก ความสูงที่ลดลง 90 มิลลิเมตร นอกจากจะทำให้ระบบแอร์โรไดนามิกส์ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เสียงลมปะทะลดลงอีกด้วย วิศวกรของ Honda ทำการทดสอบรถ New Accord ในอุโมงค์ลม เพื่อออกแบบชิ้นส่วนที่ต้านลมให้มีความลู่ลมมากขึ้น เช่น ใบปัดน้ำฝน เสียงจากการบดไปกับพื้นถนนของยางทั้งสี่เส้น ก็ยังถูกจัดการด้วยฉนวน หรือวัสดุซับเสียงแบบใหม่ สำหรับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของเครื่องยนต์ วิศวกรได้ออกแบบชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ หรือชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ในระหว่างการใช้งาน ด้วยการออกแบบให้ชิ้นส่วนดังกล่าวด้วยการลดแรงเสียดทานโดยลดน้ำหนัก ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเมื่อเบาขึ้น แรงเสียดทานจะลดลง และทำให้การสั่นสะเทือนลดลงตามไปด้วย
New Accord รุ่นที่กำลังเปิดตัวในประเทศไทยมีเครื่องยนต์ให้เลือกสองแบบคือ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 2.0 ลิตร 158 แรงม้า และเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 185 แรงม้า ระบบ iVTEC เป็นการรวบรวมระบบ VTEC-Variable Valve Timing And Lift Electronic Control ผนวกเข้ากับ VTC หรือ Variable Timing Control ทั้งสองระบบทำหน้าที่ควบคุมระยะการยกตัวกับคาบเวลาของการยกในระบบวาล์วทั้ง หมด ทำให้การป้อนไอดีเข้าสู่ห้องเผาไหม้มีความต่อเนื่องราบรื่นและสมดุลสูงสุด สัมพันธ์ไปกับรอบเครื่องยนต์ มันคือระบบที่ควบคุมได้ทั้งระยะเวลาการเปิด-ปิด และระยะยกตัวของวาล์ว ช่วยทำให้อากาศไหลเข้าไปยังท่อร่วมไอดีมีความแม่นยำ ทั้งส่วนผสมและปริมาณที่ต้องการ ระบบดังกล่าวทำงานผ่านสมองกล ECU ซึ่งนำข้อมูลของรอบเครื่องยนต์มาเป็นตัวตัดสินใจในการยก หรือเปิด-ปิด ของวาล์ว รวมถึงยังใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ เป็นข้อมูลเสริม เพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์มี ความสมบูรณ์สูงสุด เช่น ระยะเวลาในการจุดระเบิด/ตำแหน่งของลิ้นปีกผีเสื้อ/อัตราส่วนผสมของไอดีและ องศาเพลาลูกเบี้ยว ระบบ VTEC จะสลับการทำงานระหว่างลูกเบี้ยวสองชุด เพื่อให้มีความสอดคล้องกับสภาวะของการใช้งาน ช่วยควบคุมปริมาณแรงดันไอดีที่เข้าสู่กระบอกสูบ ส่วนลิ้นปีกผีเสื้อแบบไฟฟ้า หรือ Drive By Wire มีการลด Pumping Loss ในช่วงที่เครื่องยนต์ทำงานปกติ เพลาลูกเบี้ยวสองชุด ชุดแรกทำงานในองศาที่ต่ำตั้งแต่รอบเดินเบาไปจนถึงรอบเครื่องกลางๆ ส่วนเพลาลูกเบี้ยวอีกหนึ่งชุดสำหรับทำงานในองศาที่สูงขึ้น จะทำงานตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 4,800 รอบต่อนาทีไปจนถึงรอบสูงสุด
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร กลายเป็นรุ่นยอดนิยมของคนไทย มันใช้ฝาสูบแบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป DOHC กระบอกสูบคูณช่วงชักที่ 87.0 มิลลิเมตร x 99.1 มิลลิเมตร มีปริมาตรความจุรวม 2,356 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-F1 ให้กำลังสูงสุด 185 แรงม้า ที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 11.1:1 มาตรฐานการปล่อย CO2 อยู่ในระดับ EURO5 ชุดส่งกำลัง หรือเกียร์ของ New Accord วางเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ออกแบบให้มีอัตราทดกว้างกว่าเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดลูกเก่า เน้นความราบเรียบนุ่มนวลในการส่งกำลังเมื่อปรับเปลี่ยนอัตราทด ช่วยสร้างอัตราเร่งขณะช่วงอัตราทดเกียร์ปลายที่ลดลง ทำให้รอบเครื่องลดลงตามไปด้วย ส่งผลไปถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น เกียร์ CVT ใน New Accord ยังมีระบบ S-Range Control มาช่วยให้พวกที่ชอบขับแบบลากรอบมีความสนุกสนานเพิ่มขึ้นเมื่อต้องการเร่ง ความเร็วอย่างต่อเนื่อง ส่วนระบบรองรับของ New Accord ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้กอัพแบบใหม่ที่ปรับปรุงระยะยืดและยุบให้ดีขึ้นกับเหล็กกันโคลงเส้นเขื่อง ด้านหลังใช้แบบมัลติลิ้งค์ ระบบช่วยทรงตัว VSA / TCS / Hill Start Assist ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ชุดกระจายแรงเบรก EBD จานดิสก์เบรกหน้าขนาด 292 มิลลิเมตร จานดิสก์เบรกหลัง 282 มิลลิเมตร เจ้า Accord 2014 มีล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ลวดลายคุ้นตา คล้ายกับล้อของ Civic รุ่น 2.0 โดยมีลายคล้ายๆ กับกลีบใบของเครื่องยนต์เทอร์ไบน์ ซีดานสมรรถนะสูงคันนี้ใช้ยาง 215/55/R17 มิติตัวถัง กว้าง 1,850 มิลลิเมตร ยาว 4,862 มิลลิเมตร สูง 1,466 มิลลิเมตร ระยะห่างฐานล้อ 2,776 มิลลิเมตร ระยะห่างระหว่างล้อหน้า-หลัง 1,595-1,593 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยว 11.61 เมตร ความจุถังเชื้อเพลิง 65 ลิตร และมีน้ำหนักตัว (รุ่น 2.4) 1,523 กิโลกรัม
เจ้า หน้าที่และทีมวิศวกรของ Honda ในชุดแจ็กเก็ตสีแดงจัดให้สื่อมวลชนของไทยได้ลงทดสอบครั้งละคน โดยขับขี่กันคนละ 6 รอบสนาม ด้วยความเร็วไม่เกิน 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สนาม Twin Ring ในช่วงสายของวันอังคารที่ 27 แม้จะมีแสงแดดสดใสกับท้องฟ้าที่กระจ่างตา แต่อุณหภูมิกลับไม่ได้สูงขึ้นเลยแม้แต่น้อย ลมเย็นจัดที่พัดมาจากภูเขารอบๆ Twin Ring Motegi กดอุณหภูมิให้อยู่ที่ 5-7 องศาทั้งวัน รถทดสอบคันจริงตัวเป็นๆ คันนี้ดูสวยและเพรียวมากขึ้น โครงสร้างโลหะ Advanced Compatibility Engineering ห่อหุ้มด้วยตัวถังที่ถูกลดขนาดลงให้มีความปราดเปรียวมากกว่ารุ่นที่ผ่านมา ความสูงที่ลดลงอีก 90 มิลลิเมตรกับด้านหน้าและบั้นท้ายที่กระชับขึ้น จึงทำให้ดูเหมือนมันผอมลงจากการออกกำลังกาย เจ้า Accord รุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร คันทดสอบยาว 4862 มิลลิเมตร และมีพื้นที่ภายในกว้างเท่าเดิม ห้องโดยสารที่ถูกคำนึงถึงพื้นที่ของการวางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะ ทำให้วิศวกรและนักออกแบบภายในของ Honda มีงานทำอย่างล้นมือ ตำแหน่งของการนั่งขับอยู่ในระดับที่ดี เบาะไฟฟ้าที่ปรับได้กว้างและครอบคลุมทุกสรีระของมนุษย์ จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาสำหรับคนที่มีรูปร่างเล็ก หรือใหญ่เกินไป มุมมองและทัศนวิสัยรอบคันเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรถ Accord เมื่อกระจกบังลมทุกบานยังไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสง เมื่อเริ่มต้นการขับทดสอบ ผมทำความคุ้นเคยกับตัวรถในรอบแรก โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบรถขับเคลื่อนล้อหลังมากกว่ารถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า อาการต่างๆ ที่ส่งออกมาจากรถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง จะชัดแจ้งมากกว่า แซสซีส์ เครื่องยนต์และเกียร์เป็นส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวตัดสินว่ามันขับได้ดีหรือ ห่วย แต่เมื่อได้ลองขับ New Accord 2.4 ซึ่งเป็นรถขับหน้าเต็มรูปแบบ ทำให้ความรู้สึกของผมเริ่มเปลี่ยนไป
คอนโซล กลางมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเมื่อต้องยัดจอมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งทำหน้าที่เป็นจอภาพมอนิเตอร์ของกล้องที่ติดอยู่ใต้กระจกมองข้าง รูปแบบของชุดปรับอากาศและเครื่องเสียง ทำออกมาแบบเรียบๆ แต่ดูดีขึ้นด้วยชิ้นงานพลาสติกที่ทำคล้ายกับอัลลอยเดินเส้น ล้อมกรอบคอนโซลและช่องแอร์ ตำแหน่งของพวงมาลัย คันเกียร์ ปุ่มและสวิชท์ต่างๆ มีน่าตาที่เปลี่ยนไปและวางอยู่ในที่ๆ ใช้งานได้สะดวก สนามทดสอบความยาวต่อรอบ 1.5 กิโลเมตร บนสปีดที่ไม่เกิน 80 กิโลเมตร ทำให้ผมได้สัมผัสกับสมรรถนะของ New Accord 2.4 เพียงแค่ 30% เท่านั้น พวงมาลัยที่ความเร็วต่ำยังคงเบาสบายและสามารถควบคุมหัวรถให้หลบกรวยไพล่อน ได้อย่างไร้ปัญหา New Accord มีโช้กอัพใหม่ ช่วงล่างใหม่ของ New Accord ทำออกมาได้ดี อาการโคลงตัวเมื่อหักพวงมาลัยไปทางซ้ายและขวาสลับกันเร็วๆ ไม่ปรากฏออกมาให้เห็น ที่ยังคงเหมือนเดิมคือความเบาของคันเร่งไฟฟ้า ส่วนระบบส่งกำลัง CVT S-Range Control ไม่ได้สำแดงประสิทธิภาพมากนัก เนื่องจากถูกจำกัดความเร็ว สามรอบสุดท้าย ผมขับมันเร็วขึ้นมาอีกนิดโดยใช้ความเร็วในการเข้าออกโค้งบนสนามทดสอบ Twin Ring มากกว่าเจ้าหน้าที่ Honda กำหนด ที่ชอบมากคือความเงียบของห้องโดยสาร ไดนามิกของตัวรถจากการถ่ายเทน้ำหนักเมื่อขับเข้าโค้งมุมแคบและท่านั่งที่ สบายๆ จากการออกแบบ คงต้องอดใจรอช่วงทดสอบทางไกลที่ประเทศไทยในเดือนเมษายน หลังจากการเปิดตัวในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2556
เช้า วันรุ่งขึ้น ที่ความสูง 2,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลบนยอดภูเขาไฟเขาชิราเนะ ซึ่งมีหิมะสีขาวปกคลุมไปทั่ว ผมเดินมาหยุดอยู่ตรงจุดสูงสุด ที่นักสกีจะทิ้งตัวลงไปด้านล่าง ความสูงกว่า 800 เมตร จากยอดเขาลงไปยังสันเขาทั้งด้านทิศตะวันออก ทำให้รู้สึกแปลกๆ หิมะและแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณหุบเขาในแถบจังหวัดอิบารากิ รวมถึงเมืองเล็กๆ ที่อยู่ด้านล่าง ทำให้วิวทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามเหนือคำบรรยาย การเดินทางมาขับทดสอบ Honda New Accord จบลงอย่างรวดเร็วและมีความสุข แม้จะได้ลองกันแค่คนละ 6 รอบ แต่สัมผัสที่ได้รับ ทำให้ซึมซับได้ว่ามันเป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลางที่ดีคันหนึ่งบนตลาดรถใหม่ของ ไทย แม้ขนาดของตัวถังจะสั้นลง แต่พื้นที่ของห้องโดยสารกลับมีความกว้างขวางเท่าเดิม กล้องที่ใต้กระจกมองข้างช่วยให้การเปลี่ยนทิศทางมีความปลอดภัย มันจะส่งภาพที่มีความคมชัดมายังจอมอนิเตอร์ที่บริเวณคอนโซลกลางด้านบน เครื่องยนต์ในรุ่น 2.0 ลิตร มีการพ้ฒนาให้ระบบเผาไหม้ทำงานได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น โช้คอัพที่ปรับระดับของการยืดและยุบใหม่ หมดกับน้ำหนักของช่วงล่างที่เบาขึ้น ยังช่วยทำให้การควบคุมดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ขนาดที่กระชับ ส่งผลให้มันปราดเปรียวมากกว่ารุ่นที่แล้ว ซึ่งยาวและสูงมากกว่า นี่คือตัวแทนของความสำเร็จตลอดช่วงอายุโมเดลที่ยืนยาวมานานกว่า 37 ปี ผมคิดว่าหลังการเปิดตัว New Accord ทั้ง 2.0 และ 2.4 มันน่าจะเป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลางอีกรุ่นที่ทำตลาดได้ดีตามรุ่นพี่ทั้ง 8 รุ่นที่่เคยประสบความสำเร็จไปก่อนหน้านี้.
(เนื่องจากไม่ได้รับ อนุญาตให้มีการบันทึกภาพตลอดการขับทดสอบ ภาพรถ New Accord บางภาพเป็นรุ่นที่มีขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะแตกต่างกับรุ่นที่กำลังจะขายในประเทศไทยเพียงเล็กน้อยบริเวณไฟหน้า)
ขอบพระคุณข้อมูลดีๆ จาก : http://www.thairath.co.th